สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 37.80 ดอลลาร์ หรือ 1.60% ปิดที่ 2,331.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.206 ดอลลาร์ หรือ 3.87% ปิดที่ 29.942 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.40 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,008.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.10 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 924.60 ดอลลาร์/ออนซ์
กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือนในเดือนมิ.ย. ท่ามกลางการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีบ่งชี้ว่า จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้น 0.2% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ราคาทองคำแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้น 0.2% สู่ระดับ 105.796
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์ปรับตัวรับโอกาส 63% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. โดยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย