ราคาทองฟิวเจอร์ทรงตัว หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศถอนตัวจากการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2567
ณ เวลา 20.11 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 0.10 ดอลลาร์ หรือ +0.00% แตะที่ระดับ 2,399.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตอนนี้ตลาดกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2567 (ประมาณการเบื้องต้น) ในวันพฤหัสบดีนี้ (25 ก.ค.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย.ในวันศุกร์ (26 ก.ค.) ซึ่งจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังการประชุมเฟดในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ โดยขณะนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ภายในเดือนก.ย.
จิโอวานนี สตาอูโนโว นักวิเคราะห์จาก UBS กล่าวว่า "แม้ว่าเรายังคงมองว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.นี้ หากข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ เช่น ตัวเลข PCE ยังคงชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว"
"เรายังคงเชื่อว่าราคาทองคำมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากระดับปัจจุบัน และให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 2,600 ดอลลาร์/ออนซ์ ภายในสิ้นปีนี้"
ทั้งนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,483.60 ดอลลาร์/ออนซ์ ในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
"เราได้เห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการเก็งกำไรในทองฟิวเจอร์/ออปชั่นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังคงมีโอกาสในการเพิ่มการลงทุนใน ETF ทองคำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชัดเจนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดด้วย" สตาอูโนโวกล่าวเสริม