ราคาทองฟิวเจอร์ขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ (29 ก.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตามองการประชุมนโยบายของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 18.49 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. บวก 7.20 ดอลลาร์ หรือ +0.30% สู่ระดับ 2,388.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทองคำ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ได้ปรับตัวขึ้น 3% นับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. โดยเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดที่ 2,483.60 ดอลลาร์/ออนซ์
หลังจากรายงานเงินเฟ้อเดือนมิ.ย.ออกมาในทิศทางที่ดี ตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่า ในการประชุมนโยบายวันพุธนี้ เฟดจะเริ่มปูทางสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ปัจจัยที่สนับสนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางการเมืองระหว่างประเทศ คือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง หลังเกิดเหตุการณ์ยิงจรวดถล่มสนามฟุตบอลในบริเวณที่ราบสูงโกลันของอิสราเอล
ในแง่ของความต้องการทองคำจริง ประเทศจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก มีการบริโภคทองคำลดลง 5.6% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 โดยความต้องการเครื่องประดับทองคำดิ่งลงถึง 26.7% เนื่องจากราคาทองที่พุ่งสูง อย่างไรก็ตาม การซื้อทองคำแท่งและเหรียญทองคำกลับเพิ่มขึ้นมากถึง 46%
สำหรับอินเดีย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ ความต้องการเครื่องประดับทองคำ ทองคำแท่ง และเหรียญทองคำ อาจเพิ่มขึ้นถึง 50 ตันในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลประกาศลดภาษีนำเข้าทองคำลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามรายงานของสภาทองคำโลก