สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันจันทร์ (12 ส.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30.60 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 2,504.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ หรือ 1.52% ปิดที่ 28.008 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 16.70 ดอลลาร์ หรือ 1.80% ปิดที่ 946.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 899.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค. โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กำลังขยายวงกว้างขึ้น โดยอิหร่านประกาศว่าจะล้างแค้นอิสราเอล หลังเกิดเหตุลอบสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน เมื่อวันที่ 31 ก.ค.
ส่วนการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็ตึงเครียดขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองกำลังยูเครนได้ฝ่าแนวชายแดนของรัสเซียและรุกคืบเข้าไปในพื้นที่บางส่วนของภูมิภาคเคิร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซีย ซึ่งแม้ว่ารัสเซียสามารถรักษาเสถียรภาพในภูมิภาคเคิร์สก์ได้ แต่ยูเครนยังคงควบคุมดินแดนของรัสเซียได้บางส่วน นอกจากนี้ รัสเซียต้องอพยพประชาชนออกจากอีกภูมิภาคหนึ่งที่อยู่ติดกับยูเครนเมื่อวานนี้ หลังจากยูเครนเพิ่มกำลังทหารใกล้ชายแดน
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ในวันอังคาร (13 ส.ค.) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ในวันพุธ (14 ส.ค.)