สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางที่เป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.70 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 2,492.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 1.489 ดอลลาร์ หรือ 5.45% ปิดที่ 28.828 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 35.50 ดอลลาร์ หรือ 3.82% ปิดที่ 965.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 14.20 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 936.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่เฟด 2 รายซึ่งรวมถึงนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ได้ออกมาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่คณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่เฟดมีท่าทีระมัดระวังในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำลดช่วงบวก หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกที่สูงเกินคาดและข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน โดยข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้นและสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อีกทั้งทำให้นักลงทุนปรับลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 1% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% หลังจากที่ปรับตัวลดลง 0.2% ในเดือนมิ.ย.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 236,000 ราย
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 76.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 65% ก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว และให้น้ำหนักเพียง 23.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 36.0% ก่อนการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว