ราคาทองพักฐานในวันนี้ หลังพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 2,500 ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย รวมทั้งคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตปรับตัวลง 0.5% สู่ระดับ 2.494.59 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ หลังจากพุ่งแตะ 2,509.65 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 0.3% สู่ระดับ 2,529.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นายพาวเวลจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันศุกร์ที่ 23 ส.ค.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย
นักวิเคราะห์คาดว่าถ้อยแถลงของนายพาวเวลในปีนี้จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น หลังจากที่นักลงทุนพากันตื่นตระหนกเทขายหุ้นจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลในปี 2565 และ 2566
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ปัญหาของเฟดในขณะนี้ไม่ได้อยู่ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.หรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเท่าใด และนักลงทุนหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวในวันศุกร์นี้
ก่อนหน้านี้ วาทะของนายพาวเวลในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้สร้างความปั่นป่วนต่อตลาดหุ้นทั่วโลก
โดยในการประชุมปี 2565 นายพาวเวลสร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด ด้วยการกล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลงสู่เป้าหมาย 2% พร้อมกับเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนในปี 2566 นายพาวเวลย้ำเตือนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงเกินไป
นักลงทุนเทน้ำหนัก 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
หากเฟดลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย.ตามคาด จะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ และครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2562
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยแบ่งเป็นให้น้ำหนัก 73.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนัก 26.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในเดือนดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ย. ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี
นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปออกรายงานระบุว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในกลางปี 2568 ขณะที่ราคาคาดการณ์เฉลี่ยในไตรมาส 4 อยู่ที่ระดับ 2,550 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนนักวิเคราะห์จาก BMI คาดการณ์ว่า ราคาทองจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,700 ดอลลาร์/ออนซ์ หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะกดดันให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ขณะเดียวกัน นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง และสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ