สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (6 ก.ย.) จากระดับสูงสุดเกือบเป็นประวัติการณ์ที่เข้าทดสอบในช่วงเช้า หลังการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่ไม่ชัดเจนนั้น ทำให้เกิดความไม่แน่ใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากเพียงใดในเดือนนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 2,524.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวลง 1.09% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 91.6 เซนต์ หรือ 3.15% ปิดที่ 28.183 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 11.60 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 918.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 38.40 ดอลลาร์ หรือ 4.10% ปิดที่ 898.50 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 164,000 ตำแหน่ง และกระทรวงแรงงานยังได้ปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.สู่ระดับ 89,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานไว้ที่ระดับ 114,000 ตำแหน่ง
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 4.2% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.3% ในเดือนก.ค.
อาคาช โดชิ หัวหน้าฝ่ายสินค้าโภคภัณฑ์ในอเมริกาเหนือของซิติ รีเสิร์ชกล่าวว่า นักลงทุนในตลาดทองคำไม่แน่ใจว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% หรือ 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 73% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนนี้ และมีโอกาส 27% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50%
จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้ จะช่วยให้ตลาดแรงงานมีความสมดุล
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดกล่าวด้วยว่า ถึงเวลาแล้วที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยเขามีความยืดหยุ่นเกี่ยวกับขนาดและความเร็วของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย