สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (11 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 70 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 2,542.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 31.4 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 28.928 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 11.90 ดอลลาร์ หรือ 1.26% ปิดที่ 956.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 50.20 ดอลลาร์ หรือ 5.25% ปิดที่ 1,007.00 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 85% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากให้น้ำหนัก 66% เมื่อวันอังคาร และให้น้ำหนักเพียง 15% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34% เมื่อวันอังคาร
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นของอัตราตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 101.684 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 3.663% เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ