สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 38.20 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ 2,580.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.179 ดอลลาร์ หรือ 4.08% ปิดที่ 30.107 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 26 ดอลลาร์ หรือ 2.72% ปิดที่ 982.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41.80 ดอลลาร์ หรือ 4.15% ปิดที่ 1,048.80 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2%
อเล็กซ์ เอบคาเรียน ผู้บริหารของบริษัท Allegiance Gold กล่าวว่า "ดัชนี PPI ออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เพียงเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในทิศทางชะลอตัว และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งจะช่วยให้ทองคำมีความน่าดึงดูดมากขึ้น นอกจากนี้ เราคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลายครั้งในวันข้างหน้า"
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และให้น้ำหนัก 27% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันดังกล่าว