ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 2,630 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ขณะที่นักลงทุนเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังมีแนวโน้มว่าอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์อาจบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
ณ เวลา 21.14 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.27% สู่ระดับ 2,628.30 ดอลลาร์/ออนซ์
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เปิดเผยว่า ทางกลุ่มสนับสนุนความพยายามในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในเลบานอน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกมาสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงอย่างเปิดเผย โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าอิสราเอลจะต้องยุติสงครามในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ ราคาทองได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนพ.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ราคาทองยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ขณะที่การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ รวมทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค.
ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 3.2% เช่นกันในเดือนส.ค.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.