ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,710 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันนี้ ส่วนราคาทองฟิวเจอร์พุ่งทะลุ 2,720 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค. แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลทำการสังหารนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำกลุ่มฮามาส รวมทั้งความไม่แน่นอนต่อผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.
ณ เวลา 18.37 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตบวก 15.63 ดอลลาร์ หรือ 0.58% สู่ระดับ 2,709.39 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากแตะระดับ 2,713.93 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 18.30 ดอลลาร์ หรือ 0.68% สู่ระดับ 2,725.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค. แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 77.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 262,000 ราย