สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันอังคาร (22 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดตลอดกาล โดยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งในสหรัฐและสงครามในตะวันออกกลาง ตลอดจนการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้น ได้ช่วยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 20.90 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 2,759.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 96.30 เซนต์ หรือ 2.83% ปิดที่ 35.041 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 24.60 ดอลลาร์ หรือ 2.42% ปิดที่ 1,041.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 25.80 ดอลลาร์ หรือ 2.44% ปิดที่ 1,081.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในการประกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจนั้น เพิ่มขึ้นมากกว่า 33% แล้วในปีนี้ และทำลายสถิติสูงสุดหลายครั้ง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการถือครองทองคำอีกด้วย
ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสส์พบว่า คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนำในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอยู่ที่ 46% เมื่อเทียบกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ที่มีคะแนน 43%
ด้านปัจจัยทางเทคนิคนั้น ดัชนี Relative Strength Index (RSI) ของสัญญาทองคำนั้นขณะนี้อยู่ที่ 74 ซึ่งบ่งชี้ว่า ราคาทองคำปรับตัวเข้าสู่ภาวะที่มีแรงซื้อมากเกินไปแล้ว (overbought)