สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (25 ต.ค.) โดยฟื้นตัวขึ้นจากแรงขายทำกำไร ขณะที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐได้ช่วยหนุนราคาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 2,754.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.60 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 33.779 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.30% ปิดที่ 1,036.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 38.80 ดอลลาร์ หรือ 3.33% ปิดที่ 1,202.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
"ความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนสุดสัปดาห์" บ็อบ ฮาเบอร์คอร์น นักกลยุทธ์ตลาดอาวุโสของอาร์เจโอ ฟิวเจอร์ส (RJO Futures) กล่าว
ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่า 32% แล้วในปีนี้ เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เกิดขึ้นจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางได้ช่วยผลักดันราคา รวมถึงจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ด้วย
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ช่วยหนุนความต้องการทองคำด้วย เนื่องจากผลสำรวจความเห็นแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันยังคงสูสีระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์และคามาลา แฮร์ริส
ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้น แม้ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า โดยดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 จากการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ