ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นจ่อแตะระดับ 2,790 ดอลลาร์ในวันนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ส่วนราคาทองฟิวเจอร์มีลุ้นพุ่งทะลุ 2,800 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์หน้า
ณ เวลา 18.37 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตบวก 11.04 ดอลลาร์ หรือ 0.4% สู่ระดับ 2,779.88 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากพุ่งแตะระดับ 2,789.73 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.44% สู่ระดับ 2,793.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองทั่วโลกพุ่งขึ้น 5% สู่ระดับ 1,313 ตันในช่วงไตรมาส 3/2567 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และส่งผลให้การบริโภคทองพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก
การพุ่งขึ้นของอุปสงค์ดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากกระแสการลงทุนที่แข็งแกร่งจากชาติตะวันตก รวมทั้งจากนักลงทุนรายย่อยที่มีมูลค่าลงทุนสูง ซึ่งช่วยหักล้างอุปสงค์ที่ซบเซาจากเอเชีย
นอกจากนี้ กระแสเงินลงทุนได้ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำในไตรมาส 3/2567 หลังจากไหลออกก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ราคาทองได้พุ่งขึ้นมากกว่า 33% นับตั้งแต่ต้นปี 2567 และพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้ง โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อของธนาคารกลางหลายแห่ง และอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุน รวมทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
WGC คาดว่าราคาทองจะยังคงดีดตัวขึ้นต่อไป ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ และผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งการที่รัฐบาลสหรัฐเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณจำนวนมาก
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งในเดือนพ.ย.และเดือนธ.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนพ.ย. รวมทั้งให้น้ำหนัก 78.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/67 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 111,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 254,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. โดยคาดว่าการจ้างงานในเดือนต.ค.ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนเฮลีนและมิลตันที่พัดถล่มสหรัฐ รวมทั้งการผละงานประท้วงของพนักงานบริษัทโบอิ้ง, เท็กซ์ตรอน และโรงแรมฮิลตัน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนต.ค.