สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (1 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้น แต่ข้อมูลการจ้างงานที่ต่ำกว่าคาดทำให้บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งได้ช่วยลดช่วงติดลบของราคาทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 10 เซนต์ หรือ 0.00% ปิดที่ 2,749.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.5 เซนต์ หรือ 0.35% ปิดที่ 32.681 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,002.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,108.80 ดอลลาร์/ออนซ์
การจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 โดยได้รับผลกระทบจากภาวะชะงักงันที่เกิดจากพายุเฮอร์ริเคน และการประท้วงหยุดงานของคนงานโรงงานผลิตเครื่องบิน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐปรับตัวขึ้นด้วย ซึ่งทำให้ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยนั้นมีความน่าสนใจน้อยลง
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.29% สู่ระดับ 104.281
บรรดานักลงทุนจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย.นี้ และการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 6-7 พ.ย.
ผลสำรวจความเห็นบ่งชี้ว่า การแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และคามาลา แฮร์ริสนั้นเป็นไปอย่างสูสี
ส่วนนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า มีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในสัปดาห์หน้า เมื่อเทียบกับโอกาส 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงาน