ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างหนักในช่วงบ่ายวันนี้ (6 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากผลนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน มีคะแนนนำคามาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
ณ เวลา 14.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.10 ดอลลาร์ หรือ 1.20% แตะที่ระดับ 2,716.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ หลังจากมีรายงานว่าทรัมป์เก็บชัยชนะใน 3 รัฐสมรภูมิ จาก 7 รัฐที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งของสหรัฐฯ
แม้ว่าการนับคะแนนยังคงดำเนินอยู่ แต่สื่อหลายสำนักรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีทรัมป์กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนแรกในรอบ 132 ปีที่จะได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 แบบไม่ติดต่อกัน หลังจากที่ผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่าเขาชนะในรัฐนอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย และเพนซิลเวเนีย พร้อมกวาดคะแนนคณะผู้เลือกตั้งรวมจาก 3 รัฐนี้ไปได้ทั้ง 51 คะแนน
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าทองคำจะพุ่งขึ้นหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้น ชัยชนะของทรัมป์ได้ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าและเป็นปัจจัยฉุดราคาทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักวิเคราะห์ระบุว่า ชัยชนะของทรัมป์จะเป็นปัจจัยบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากแผนการปรับลดอัตราภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน รวมทั้งการตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศจะส่งผลกระทบต่อสกุลเงินเอเชีย และจะเพิ่มความผันผวนในตลาดการเงิน ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อดอลลาร์ในที่สุด