ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 7.30 ดอลลาร์ บอนด์ยีลด์พุ่งฉุดตลาด

ข่าวต่างประเทศ Tuesday January 7, 2025 07:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (6 ม.ค.) โดยตลาดถูกกดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณเมื่อไม่นานมานี้ว่าเฟดอาจจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 7.30 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 2,647.40 ดอลลาร์/ออนซ์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 8 เดือน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

นิเทช ชาห์ นักกลยุทธ์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์จากบริษัท WisdomTree กล่าวว่า "แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะกลับมาสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำอีกครั้ง แต่เราคาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,050 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ โดยอ้างอิงจากโพลสำรวจมุมมองทางเศรษฐกิจของบรรดานักวิเคราะห์ซึ่งมองว่าสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะชะลอตัวลง และหากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก ก็อาจจะทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นสูงกว่าระดับที่เราคาดการณ์ไว้"

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ (7 ม.ค.), ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ในวันพุธ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ