ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวทะลุระดับ 2,700 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
นอกจากนี้ ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อทองในตลาดเอเชีย ขณะเข้าใกล้เทศกาลตรุษจีน
ณ เวลา 20.14 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. บวก 10.80 ดอลลาร์ หรือ 0.40% สู่ระดับ 2,701.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ราคาทองพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์
สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า หลังการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. นายทรัมป์อาจใช้คำสั่งประธานาธิบดีตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economic Emergency Powers Act) หรือ IEEPA เพื่อประกาศใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษี โดย IEEPA จะให้อำนาจประธานาธิบดีในการควบคุมการนำเข้าสินค้าในยามที่สหรัฐประสบวิกฤตการณ์
ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในคืนนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%
นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2568 และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะต้องรอนานถึงกลางปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่าในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 17-18 ธ.ค.2567 เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.และพ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568