สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (24 ม.ค.) ใกล้ระดับสูงสุดตลอดกาลที่เคยทำไว้ในเดือนต.ค. โดยได้แรงหนุนจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้า ได้ช่วยหนุนราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 4
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 13.90 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 2,778.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนั้น ทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยยังคงน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความไม่มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ในการกล่าวสุนทรพจน์ออนไลน์ต่อที่ประชุม World Economic Forum เมื่อวันพฤหัสบดี ทรัมป์เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ยทันที ส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯ ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน ซึ่งทำให้ทองคำมีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจมากสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) ระบุว่า ตลาดจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ รวมถึงการประกาศภาษีหรือนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ในวันที่ 1 ก.พ.
ทรัมป์ระบุว่า อาจจะมีการประกาศเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดา จีน และสหภาพยุโรปในวันที่ 1 ก.พ.
ส่วนบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมสัปดาห์หน้า