ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 50 ดอลลาร์ จ่อทะลุระดับ 2,850 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ณ เวลา 23.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 55.30 ดอลลาร์ หรือ 1.98% สู่ระดับ 2,848.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ปธน.ทรัมป์เตรียมเดินหน้าเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. และขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีต่อชิปคอมพิวเตอร์ ยา และเหล็กที่มีการนำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อกดดันให้ผู้ผลิตสินค้าเหล่านี้ทำการผลิตในสหรัฐ
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.4% ในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 0.1% ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.8% เช่นกันในเดือนพ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 0.1% ในเดือนพ.ย.