ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมสู่ระดับ 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งส่งผลให้ตลาดทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนมากขึ้น และเป็นปัจจัยหนุนความต้องการทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ณ เวลา 09.05 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 25.70 ดอลลาร์ หรือ 0.88% แตะที่ระดับ 2,960.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ปธน.ทรัมป์ได้ลงนามในคำประกาศเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) ให้ปรับขึ้นอัตราภาษีอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ เป็น 25% จากอัตราเดิมที่ระดับ 10% และยกเลิกข้อยกเว้นรายประเทศและข้อตกลงตามโควตา รวมทั้งยกเลิกการยกเว้นภาษีเฉพาะผลิตภัณฑ์ (product-specific tariff) นับแสนรายการสำหรับโลหะทั้งสองชนิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ามาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.
ทั้งนี้ อัตราภาษีที่ปรับขึ้นเป็น 25% นั้น จะมีผลบังคับใช้กับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมหลายล้านตันจากแคนาดา บราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ และประเทศอื่น ๆ ที่เคยนำเข้าสู่สหรัฐฯ โดยไม่เสียภาษีภายใต้ข้อยกเว้นพิเศษ
มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะช่วยเหลืออุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียมของสหรัฐฯ ที่กำลังประสบปัญหา แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเกิดสงครามการค้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้ (11 ก.พ.) ก่อนที่จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.)
ทั้งนี้ การกล่าวแถลงการณ์ทั้ง 2 วันจะมีขึ้นในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 22.00 น.ตามเวลาไทย