สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (14 ก.พ.) จากแรงขายทำกำไร แต่ยังคงปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดกัน โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ผลักดันให้มีการเก็บภาษีตอบโต้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 44.70 ดอลลาร์ หรือ 1.52% ปิดที่ 2,900.70 ดอลลาร์/ออนซ์
อเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าวว่า "ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งได้รับแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยหลายประการ เช่น ภาษี, อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน, และดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง โดยมีการย้ายจากทองคำกระดาษไปเป็นทองคำแท่งมากขึ้น ซึ่งยิ่งกระตุ้นแนวโน้มนี้"
ในวันพฤหัสบดี ทรัมป์ได้สั่งการให้ทีมเศรษฐกิจของเขาวางแผนภาษีตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีกับสินค้าของสหรัฐฯ ซึ่งการดำเนินการที่อาจส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อนี้ อาจกระตุ้นความต้องการทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์
ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปีในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในช่วงต้นไตรมาสแรก
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนก.ย. เนื่องจากมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อสูง ขณะที่การลดลงของจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน