ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ ทะลุ 2,930 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าของสหรัฐ
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 21.02 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 31.50 ดอลลาร์ หรือ 1.13% สู่ระดับ 2,932.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากจีน แคนาดาและเม็กซิโกตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% และเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในอัตรา 20% นอกจากนี้ สหรัฐจะเริ่มใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.
ตลาดจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.0%
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการกล่าวปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐและชาวอเมริกันทั่วประเทศเป็นครั้งแรก หลังจากที่ปธน.ทรัมป์รับตำแหน่งประธานาธิบดีเพียง 6 สัปดาห์ หลังการสาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ต่อที่ประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในครั้งนี้มีกำหนดจัดขึ้นในคืนวันอังคารที่ 4 มี.ค. เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเช้าวันพุธที่ 5 มี.ค. เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
แม้การกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการกล่าวแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะมีขึ้นสำหรับประธานาธิบดีสหรัฐที่ดำรงตำแหน่งเกินกว่า 1 ปี แต่การกล่าวปราศรัยในครั้งนี้ก็ถือว่ามีความสำคัญ และได้รับความสนใจไปทั่วโลก เนื่องจากจะบ่งชี้ถึงทิศทางการดำเนินนโยบายทางการเมืองและการค้าของปธน.ทรัมป์ และถือเป็นโอกาสของปธน.ทรัมป์ในการกล่าวถึงความสำเร็จในช่วงเริ่มต้นของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขา