สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ (5 มี.ค.) โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมทั้งสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 2,926.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ โดยล่าสุดดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.36% แตะที่ระดับ 104.301
ปีเตอร์ แกรนท์ นักกลยุทธ์ด้านโลหะจากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ายังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ โดยความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 11 ครั้งในปีนี้ และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแล้ว 11%
สำหรับข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 77,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 148,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 186,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในเดือนก.พ.