ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3,020 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันนี้ ส่วนราคาทองฟิวเจอร์พุ่งทะลุ 3,030 ดอลลาร์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลต่อนโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งความไม่สงบในตะวันออกกลาง
ณ เวลา 18.28 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอตพุ่งขึ้น 27.98 ดอลลาร์ หรือ 0.93% สู่ระดับ 3,025.86 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 27.30 ดอลลาร์ หรือ 0.91% สู่ระดับ 3,033.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองได้พุ่งขึ้นมากกว่า 14% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ขณะที่ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 14 ครั้งในปีนี้
นักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่าราคาทองจะพุ่งแตะระดับ 3,100 ดอลลาร์ภายในเวลา 3 เดือน ขณะที่ UBS ตั้งเป้าราคาทองที่ระดับ 3,200 ดอลลาร์ในปีนี้
กองทัพอิสราเอลได้กลับมาทำการโจมตีในฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 326 ราย และถือเป็นการยุติข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 2 เดือนกับกลุ่มฮามาส
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เดินหน้าโจมตีกลุ่มฮูตี จนกว่าจะยอมยุติการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง และเตือนว่าอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีใด ๆ ในอนาคตที่เกิดจากกลุ่มฮูตี
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีการนำเข้าสู่สหรัฐตั้งแต่เดือนก.พ. รวมทั้งเตรียมเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariffs) ในวันที่ 2 เม.ย.
นักลงทุนเกาะติดการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ