สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันพุธ (23 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังส่งสัญญาณปรับลดภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากจีน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 125.30 ดอลลาร์ หรือ 3.66% ปิดที่ 3,294.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าจีนในอัตรา 145% นั้น ถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก แต่สหรัฐฯ จะไม่เรียกเก็บภาษีที่สูงเช่นนั้น โดยจะปรับลดลงต่ำกว่านั้นมาก แต่ไม่ถึงระดับ 0%
ขณะที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า และล่าสุดเขาส่งสัญญาณว่า มีโอกาสที่ทั้งสองประเทศจะบรรลุข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาไม่มีเป้าหมายที่จะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานเฟดก่อนที่พาวเวลจะครบวาระในเดือนพ.ค. 2569 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด
ขณะเดียวกันการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน พุ่งขึ้น 0.94% แตะที่ระดับ99.844