ในไตรมาสที่ 2 ดัชนีสภาวะอุตสาหกรรมเหล็กกล้าอยู่ที่ 95.0 ลดลง 2.3 จุด จากระดับไตรมาสแรก
เนื่องจากภาวะตึงตัวด้านการเงินและอุปสงค์ที่ซบเซา อุตสาหกรรมเหล็กกล้ามีแนวโน้มขาดทุนนับตั้งแต่ปี 2555 โดยได้รับผลกระทบจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนตัว และโครงการประหยัดพลังงาน ด้วยเหตุนี้ การลงทุนถาวรในภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าจึงลดลง โดยในไตรมาสแรก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าอยู่ในรายชื่อ 1 ใน 5 อุตสาหกรรมที่มีกำลังการผลิตเกินปริมาณของคณะรัฐมนตรีจีน การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่ 2 จะช่วยเปลี่ยนสถานการณ์อุปทานเกินปริมาณในภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าได้
เนื่องจากราคาสินแร่เหล็กร่วงลง ผลกำไรของภาคอุตสาหกรรมเหล็กกล้าภายในประเทศจึงเพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน