รายงานของ CISA ระบุว่า ในเดือนส.ค.นั้น มีบริษัทเหล็กกล้ารายใหญ่ขาดทุนเพียง 14 แห่ง โดยขาดทุนรวมกัน 927 ล้านหยวน
ทั้งนี้ CISA เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเหล็กกล้าของจีนมีกำไรเพิ่มขึ้นนั้น มาจากต้นทุนการผลิตสินแร่เหล็กที่ลดลง โดยข้อมูลจากศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ราคาสินแร่เหล็กนำเข้าเฉลี่ยของจีนอยู่ที่ 90.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน ในเดือนส.ค. ทำสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2553
CISA ระบุว่า ราคาสินแร่เหล็กนำเข้า (ค่าความบริสุทธิ์ 62%) ได้ปรับตัวลดลงต่อเนื่องแตะ 82.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ตันในเดือนก.ย. ลดลง 9.05 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หรือ 9.91% จากเดือนส.ค.
แม้ว่าราคาสินแร่เหล็กเดือนก.ย.ได้ปรับตัวลดลง แต่อุตสาหกรรมเหล็กกล้าจีนมีผลการดำเนินงานลดลงในเดือนก.ย. เนื่องจากราคาเหล็กกล้าได้ปรับตัวลดลงอย่างหนัก โดยผลการสำรวจล่าสุดจากมายสตีลเผยว่า โรงงานเหล็กกล้าจีนเพียง 51.53% จากทั้งหมด 163 แห่งสามารถทำกำไรได้ ณ สิ้นเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับ 80.37% ณ สิ้นเดือนส.ค.
อย่างไรก็ตาม เหล่านักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ราคาเหล็กกล้าอาจดีดตัวขึ้นในเร็วๆนี้เพื่อส่งเสริมผลกำไรของโรงงานเหล็กกล้าในเดือนต.ค. เนื่องจากโรงงานเหล็กกล้าบางส่วนทางตอนเหนือของจีนได้ปรับลดกำลังการผลิตด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม สำนักข่าวซินหัวรายงาน