องค์กรอุทธรณ์ของ WTO ได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างของจีนที่ระบุว่า กลุ่มผู้ผลิตเหล็กกล้าจีนได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กกล้าไร้สนิมจากญี่ปุ่นและยุโรปที่มีราคาถูกกว่า โดยทางองค์กรชี้ว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่จีนนำเข้าซึ่งมักมีการใช้งานตามโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินนั้นมีความทันสมัยกว่า และไม่ได้แข่งขันบนเวทีเดียวกันกับสินค้าจากบริษัทคู่แข่งในจีน
รัฐบาลจีนได้ปรับการเก็บภาษีเพิ่มอีก 10% สำหรับท่อเหล็กที่ส่งมาจากผู้ผลิตเหล็กกล้าสองรายใหญ่ของญี่ปุ่นอย่างนิปปอน สตีล แอนด์ ซูมิโตโม่ เมทัล และเจเอฟอี โฮลดิงส์ เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ผลิตเหล็กกล้าในยุโรปตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2555
ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปได้เรียกร้องให้มีการก่อตั้งคณะผู้พิจารณาการระงับข้อพิพาทเมื่อเดือนเมษายนและสิงหาคม 2556 หลังประสบกับความล้มเหลวในการเจรจากับจีนเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ WTO ได้เปิดเผยรายงานจากคณะผู้พิจารณาการระงับข้อพิพาท ซึ่งระบุถึงข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปที่ว่า การที่จีนมีการใช้ภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดต่อผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กของตนนั้นขัดต่อกฎของ WTO
ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมีการส่งออกท่อเหล็กกล้าไร้สนิมไปยังตลาดโลกเป็นมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์ในปี 2557 ซึ่ง 74% นั้นเป็นการส่งออกไปยังจีน โดยการปรับเพิ่มภาษีของฝั่งจีนได้เพิ่มภาระด้านภาษีต่อท่อเหล็กญี่ปุ่นเป็นมูลค่ากว่า 530 ล้านเยน (4.42 ล้านดอลลาร์) ต่อปี สำนักข่าวเกียวโดรายงาน