ราคาผลิตภัณฑ์ทองแดงอาจร่วงลงเร็วกว่าราคาแผ่นทองแดงบริสุทธิ์และเศษลวดทองแดง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับบริษัทผู้แปรรูปทองแดง เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัวลง
ขณะเดียวกัน ตลาดแรงงานที่ตึงตัวและข้อกำหนดเกี่ยวกับการปกป้องสภาพแวดล้อม จะส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายปรับตัวขึ้น ซึ่งจะสร้างแรงกดดันในการทำกำไรมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทผู้แปรรูปทองแดงสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 5 ของจีนรายงานว่าบริษัทขาดทุนสุทธิมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว
อย่างไรก็ดี ฟิทช์คาดการณ์ว่าบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการวิจัยและพัฒนา มีความรู้ความชำนาญ และการประหยัดจากขนาดการผลิต (Economies of scale) จะมีมาร์จิ้นที่ฟื้นตัวขึ้น
ฟิทช์ระบุว่า "เราคาดว่าบริษัทผู้แปรรูปทองแดงรายใหญ่ชั้นนำ ยังคงลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทองแดงที่มีมูลค่าสูง เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และเดินหน้าสู่การบูรณาการแนวดิ่ง (vertical integration)" สำนักข่าวซินหัวรายงาน