CISA รายงานว่า อัตรากำไรจากยอดขายโดยเฉลี่ยของโรงงานเหล็กกล้าทั้ง 101 แห่ง อยู่ที่ -1.5% ในช่วงเดือนม.ค.-ต.ค. ซึ่งปรับตัวลงต่ำที่สุดในรอบปี
รายงานระบุว่า การชะลอการลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงภาคการผลิตที่อ่อนแรง เป็นปัจจัยฉุดอุปสงค์เหล็กกล้าภายในประเทศ ซึ่งทำให้ผลกำไรของผู้ผลิตเหล็กกล้าปรับตัวลง และบีบให้บริษัทขนาดเล็กกว่าต้องยุติกิจการ
ทั้งนี้ สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) และสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีนในเดือนพ.ย.ลดลงแตะ 49.6 จาก 49.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนปรับตัวย่ำแย่ลง
ด้านคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) เปิดเผยว่า ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ การผลิตเหล็กกล้าดิบของจีนลดลง 2.2% เมื่อเทียบรายปี แตะ 675.1 ตัน
นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โรงงานเหล็กกล้ารายใหญ่ 6 แห่งของจีน ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อระบุว่าจะลดปริมาณการผลิตสแตนเลส สตีล ซีรีส์ 200 ลงอีก 30% ตั้งแต่ในเดือนธ.ค.
ส่วน CISA คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของจีนจะยังคงอยู่ในช่วงซบเซาต่อในเดือนธ.ค.