นายดินห์ เตียน หยุง รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเวียดนาม เปิดเผยว่า ทางการเวียดนามมีความตั้งใจที่จะตรวจสอบกรณีส่งออกเหล็กกล้าไปสหรัฐ หลังไม่นานมานี้ สหรัฐประกาศลงดาบเก็บภาษีนำเข้าเหล็กกล้าจากเวียดนามกว่า 400% ฐานมีส่วนร่วมในการหลบเลี่ยงภาษี
นอกจากนี้ รัฐมนตรีคลังเวียดนามยังเปิดเผยอีกด้วยว่า การประกาศแผนเก็บภาษีของสหรัฐไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก เพราะเวียดนามส่งออกเหล็กกล้าไปสหรัฐไม่มากเมื่อเทียบกับสินค้าอื่น และเวียดนามยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเพื่อตอบโต้หรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลเวียดนามต้องประเมินสถานการณ์ก่อน
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังก่อนหน้านี้ไม่นาน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศแผนกำหนดภาษีนำเข้าสูงถึง 456% สำหรับเหล็กกล้าที่ผลิตในเกาหลีใต้หรือไต้หวันซึ่งได้ถูกส่งไปยังเวียดนามเพื่อทำการแปรรูปเล็กน้อย และส่งออกไปยังสหรัฐในท้ายที่สุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ทางกระทรวงพบว่า ผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าที่ทนต่อการกัดกร่อน และเหล็กกล้ารีดเย็นที่ผลิตในเวียดนามโดยใช้สารตั้งต้นของเกาหลีใต้และไต้หวันนั้น ได้หลบเลี่ยงภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดและภาษีต่อต้านการอุดหนุนของสหรัฐ
แถลงการณ์ระบุว่า ภาษีดังกล่าวถูกเรียกเก็บต่อผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าของเกาหลีใต้และไต้หวันในเดือนธ.ค. 2558 และในเดือนก.พ. 2559 โดยนับตั้งแต่นั้นจนถึงเดือนเม.ย. 2562 การส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าซึ่งทนทานต่อการกัดกร่อนและเหล็กกล้ารีดเย็นจากเวียดนามไปยังสหรัฐได้พุ่งขึ้นถึง 332% และ 916% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าวตามการเรียกร้องของบริษัทอาเซเลอร์ มิตตาลสาขาสหรัฐ บริษัทนูคอร์ คอร์ป บริษัทยูไนเต็ด สเตท สตีล คอร์ป บริษัทสตีล ไดนามิกส์ อิงค์ บริษัทแคลิฟอร์เนีย สตีล อินดัสทรีส์ และบริษัทเอเค สตีล คอร์ป