สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ความต้องการใช้ทองแดงในจีนอาจชะลอตัวลงหลังจากทางการจีนเปิดเผยยอดการปล่อยกู้ปรับตัวลดลงในเดือนเม.ย. นอกจากนี้ การเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อ่อนแรงลงในสหรัฐยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองแดงเช่นกัน
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.6 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 4.6545 ดอลลาร์/ปอนด์ และเมื่อพิจารณาตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองแดงปรับตัวลงทั้งสิ้น 2%
ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของจีนและสหรัฐเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดราคาทองแดงร่วงลงเมื่อวันศุกร์ โดยธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดปล่อยกู้ล็อตใหม่สกุลเงินหยวนในเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 1.47 ล้านล้านหยวน (2.2877 แสนล้านดอลลาร์) ลดลง 2.293 แสนล้านหยวนจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับปัจจัยที่ทำให้ยอดการปล่อยกู้ของจีนปรับตัวลงในเดือนเม.ย.นั้น มาจากการที่ธนาคารกลางจีนได้ลดวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงด้านหนี้สินในภาคส่วนต่างๆ ที่มีการขยายตัวร้อนแรงเกินไป
ทางด้านมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 82.8 ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 90.4 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ โดยคาดว่าจะแตะระดับ 4.6% ในปีนี้ และ 3.1% สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ สถานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล