สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (19 ม.ค.) ขานรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่พุ่งขึ้นแตะดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองแดง
ทั้งนี้ สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 4.15 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 3.7865 ดอลลาร์/ปอนด์
มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจเมื่อวันศุกร์ซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 78.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 70.2 จากระดับ 69.7 ในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ผู้บริโภคเพิ่มความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต เนื่องจากคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยผู้บริโภคคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 2.9% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งลดลงจากระดับ 3.1% ในการสำรวจเดือนที่แล้ว
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ยังทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.24% แตะที่ระดับ 103.288 เมื่อวันศุกร์
บีเอ็มไอ (BMI) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยของฟิทช์ โซลูชันส์ ออกรายงานคาดการณ์เมื่อช่วงต้นเดือนม.ค.ว่า ราคาทองแดงในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นมากกว่า 75% ในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากมีแนวโน้มจะเกิดภาวะชะงักงันด้านอุปทานและอุปสงค์ทองแดงปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากมาตรการผลักดันให้มีการใช้พลังงานทดแทน
รายงานของ BMI ระบุว่า อุปสงค์ทองแดงปรับตัวขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนผ่านไปใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (green energy) และความเป็นไปได้ที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ราคาทองแดงปรับตัวสูงขึ้น