สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนวานนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ทำให้สัญญาทองแดงซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 12.8 เซนต์ หรือ +3.26% ปิดที่ 4.0600 ดอลลาร์/ปอนด์
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ระดับ 102.789
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาทองแดงพุ่งทะยานหลังบรรดาโรงถลุงแร่ทองแดงรายใหญ่ของจีน ซึ่งแปรรูปแร่ทองแดงเกือบครึ่งหนึ่งของโลก ได้ประชุมกันที่กรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้และตกลงร่วมกันที่จะลดการผลิต โดยไม่ได้ระบุปริมาณและกำหนดเวลาที่ชัดเจน
ปัญหาการขาดแคลนทำให้การแข่งขันแย่งชิงสินแร่ทองแดง (Copper Concentrate) เข้มข้นขึ้น ส่งผลให้รายได้ของโรงถลุงแร่ทองแดงลดลงอย่างมากจนอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ
"แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้ก็คือ มีโครงการโรงถลุงแร่ทองแดงนอกประเทศจีนอีกประมาณ 1.7 ล้านตันต่อปี ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะยิ่งเป็นแรงกดดันต่อปริมาณสินแร่ทั่วโลกมากขึ้น" นายไบรอัน เผิง นักวิเคราะห์ทองแดงจากบริษัทที่ปรึกษา CRU กล่าว
ข้อมูลจากการสำรวจด้วยดาวเทียมในโรงงานแปรรูปโลหะแสดงให้เห็นว่า มีโรงถลุงแร่ทองแดงทั่วโลกที่ไม่ได้ดำเนินการในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้เป็นจำนวนมากกว่าเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยส่วนใหญ่เป็นเพราะการหยุดชะงักของโรงถลุงแร่ทองแดงในจีน