ด่วน! "ไบเดน" ล้มดีล "ยูเอส สตีล-นิปปอน สตีล" ชี้กระทบความมั่นคงแห่งชาติ

ข่าวต่างประเทศ Friday January 3, 2025 20:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ประกาศคัดค้านอย่างเป็นทางการต่อข้อตกลงวงเงิน 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ที่บริษัท นิปปอน สตีล คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จะเข้าซื้อกิจการของบริษัท ยูเอส สตีล ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เนื่องจากจะกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ

"ตามที่ผมได้กล่าวมาหลายครั้งแล้วว่า การผลิตเหล็กของสหรัฐ รวมทั้งคนงานผู้ผลิตเหล็ก ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติเรา"

"การที่เราเป็นเจ้าของและดำเนินการอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ถือเป็นความสำคัญสูงสุดสำหรับความมั่นคงแห่งชาติ และถือเป็นความจำเป็นต่อห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล็กเป็นปัจจัยขับเคลื่อนประเทศของเรา โครงสร้างพื้นฐานของเรา อุตสาหกรรมรถยนต์ของเรา และเป็นฐานของอุตสาหกรรมผลิตอาวุธของเรา หากเราสูญเสียการผลิตเหล็กรวมทั้งคนงานผลิตเหล็ก ชาติของเราก็จะขาดความแข็งแกร่งและความมั่นคง" แถลงการณ์ระบุ

นอกจากนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มีแนวคิดคัดค้านการควบรวมกิจการดังกล่าวเช่นกัน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าปธน.ไบเดนประกาศคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวในวันนี้ แต่ยูเอส สตีล และ นิปปอน สตีล ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า ทั้งสองบริษัทจะยื่นเรื่องต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อให้มีการอนุมัติข้อตกลงฉบับนี้ แม้ว่ารัฐบาลไบเดนหรือรัฐบาลทรัมป์จะพยายามขัดขวางก็ตาม

ทั้งนี้ ยูเอส สตีล และ นิปปอน สตีล ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีความจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของยูเอส สตีล โดยยูเอส สตีลอาจต้องปิดกิจการ หากไม่ได้รับเงินทุน 2.7 พันล้านดอลลาร์จากนิปปอน สตีล ตามข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าว

ครั้งหนึ่ง ยูเอส สตีล เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมสหรัฐ โดยเคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดในโลก และเป็นบริษัทแห่งแรกที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพียงไม่นานหลังการก่อตั้งขึ้นในปี 2444

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของบริษัทได้ตกต่ำลงเป็นเวลานานหลายทศวรรษ หลังผ่านช่วงรุ่งโรจน์ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ