สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ผู้ผลิตเหล็กของไทยกำลังเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการปกป้องอุตสาหกรรม หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก ซึ่งจุดชนวนความกังวลทั่วโลกเกี่ยวกับปริมาณเหล็กส่วนเกินที่อาจถูกระบายไปยังตลาดอื่น
ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% เมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ ซึ่งสร้างความวิตกให้กับผู้ผลิตเหล็กทั่วโลกที่เผชิญกับการทะลักของเหล็กส่งออกจากจีนอยู่แล้ว โดยกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กของไทยเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตในประเทศมากขึ้น
"เราหมดหนทางแล้ว และรัฐบาลคือความหวังเดียวของเรา" พงศ์เทพ เทพบางจาก รองประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวให้สัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ พร้อมระบุด้วยว่า อุตสาหกรรมเหล็กไทย "อยู่ในสถานการณ์วิกฤตอยู่แล้ว จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา การบริโภคที่อ่อนแอ และอุปทานราคาถูก"
นายพงศ์เทพกล่าวว่า ผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่อันดับ 4 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้หารือกับรัฐบาลเกี่ยวกับการเพิ่มมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อจำกัดการนำเข้า โดยไทยเป็นหนึ่งในลูกค้าเหล็กรายใหญ่ของจีน ด้วยปริมาณการนำเข้ามากกว่า 5 ล้านตันในปีที่แล้ว
ทั้งนี้ แรงต่อต้านเหล็กส่งออกจากจีนที่เพิ่มมากขึ้นกำลังสร้างแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของจีน ซึ่งมีการคาดการณ์ในเดือนนี้ว่ารัฐบาลอาจสั่งจำกัดการผลิต โดยเอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P Global Ratings) ระบุว่า การส่งออกเหล็กจากจีนอาจลดลงมากถึง 20% ปีนี้ เนื่องจากอุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้น