สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันศุกร์ (28 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลสหรัฐฯ
สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.05 เซนต์ หรือ 0.20% ปิดที่ 5.1300 ดอลลาร์/ปอนด์
นักวิเคราะห์จากบีเอ็นพี พาริบาส์คาดการณ์ว่า ราคาทองแดงมีแนวโน้มร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาความเป็นไปได้ในการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองแดงเพื่อคุ้มครองอุตสาหกรรมของประเทศ ขณะที่ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่จีน ซึ่งใช้กำลังการผลิตล้นเกินและการทุ่มตลาดเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจเพื่อครอบงำตลาดโลก ถือเป็นการตัดราคาคู่แข่งอย่างเป็นระบบ และบีบให้คู่แข่งต้องเลิกทำธุรกิจในที่สุด
ทองแดงเป็นส่วนประกอบสำคัญในสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่สายไฟฟ้าไปจนถึงแผงโซลาร์เซลล์และรางน้ำ ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่า สหรัฐฯ บริโภคทองแดงบริสุทธิ์ประมาณ 1.6 ล้านตันในปี 2567 ขณะที่ผลการวิจัยของมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า สหรัฐฯ พึ่งพาทองแดงนำเข้าเป็นอย่างมาก โดยนำเข้าทองแดงสุทธิคิดเป็น 36% ของอุปสงค์ทั้งหมด