สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 1.25 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 4.78 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 6.525 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 3.25 เซนต์ หรือ 0.21% ปิดที่ 15.155 ดอลลาร์/บุชเชล
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรในช่วงก่อนวันหยุดติดต่อกันหลายวันในสุดสัปดาห์ โดยตลาดจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องจากตรงกับวัน Memorial Day
สัญญาข้าวโพดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเพราะได้รับแรงหนุนจากการที่จีนยกเลิกภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 13% สำหรับการสำรองถั่วเหลืองและข้าวโพดในคลังรัฐบาล ตลาดคาดว่าจีนมีข้าวโพดในคลังสำรองที่สามารถนำออกมาประมูลขายได้มากถึง 70 ล้านตัน ด้านนักวิเคราะห์ในตลาดคาดว่า ยอดสต็อกสำรองข้าวโพดของจีนอาจจะอยู่ที่เกือบ 100 ล้านตัน
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงหลังจากรัฐบาลอาร์เจนตินาประกาศลดอัตราภาษีไบโอดีเซลจากถั่วเหลืองลงสู่ 11% จาก 21% เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราภาษีในยุโรป ถึงแม้ว่าบราซิลอาจจะปรับขึ้นภาษีไบโอดีเซล 2 ครั้งในเดือนก.ค.และพ.ย.นี้ก็ตาม ซึ่งปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือผู้สกัดน้ำมันจะมีกำไรสูงขึ้น แต่จะมีอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองสำหรับส่งออกในปริมาณที่สูงเกินไป
กระทรวงเกษตรของสหรัฐ (USDA) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนได้ส่งออกถั่วเหลืองล็อตใหม่ไปยังจีนจำนวน 30,000 ตันโดยไม่ได้ระบุปลายทาง
ข้าวสาลีปรับตัวลดลงจากการพยากรณ์ที่คาดว่าสภาพอากาศจะยังคงเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของข้าวสาลีในปลายเดือนพ.ค.ไปจนถึงต้นเดือนมิ.ย.และมีโอกาสที่จะมีฝนตกในช่วงดังกล่าว ในขณะที่อุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ การเพาะปลูกในเขตเพลนส์และเขตมิดเวสต์ยังคงคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง และเกือบจะเสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนพ.ค.
นักวิเคราะห์เชื่อว่า กองทุนได้เริ่มเทขายสัญญาเดือนก.ค. และสภาพอากาศจะยังคงเอื้ออำนวยต่อการเติบโตของพืชทั้งในภาคกลางของสหรัฐ ยุโรป และจีน ซึ่งจะส่งผลให้การปรับตัวขึ้นของราคาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลือง ในสัปดาห์นี้มีความเป็นไปได้ยากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน