สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.25 เซนต์ หรือ 0.07% ปิดที่ 3.565 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 9.5 เซนต์ หรือ 2.11% ปิดที่ 4.5975 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 2.25 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 8.6375 ดอลลาร์/บุชเชล
รายงานของสำนักงานติดตามภัยแล้งของสหรัฐบ่งชี้ว่า ได้เกิดภาวะแห้งแล้งที่ผิดปกติตลอดทั้งภาคใต้ของเขตเพลนส์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลี ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้กองทุนเข้ามาช้อนซื้อสัญญาข้าวสาลีและส่งผลให้ราคาพุ่งแตะระดับปิดสูงสุดในรอบ 8 วัน
นอกจากนี้ ตลาด CBOT ยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ปรับตัวลดลงมากกว่า 0.5% ส่งผลให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรเป็นที่สนใจของนักลงทุนจากต่างประเทศ
รายงานยอดส่งออกประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ก.พ.ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ข้าวสาลีมียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 69% จากสัปดาห์ก่อนและ 32% จากค่าเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์
ข้าวโพดมียอดส่งออกลดลง 9% จากสัปดาห์ก่อน แต่เพิ่มขึ้น 13% จากค่าเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์ ในขณะที่ยอดส่งออกถั่วเหลืองลดลง 14% จากสัปดาห์ก่อนและ 11% จากค่าเฉลี่ยในรอบ 4 สัปดาห์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ข้าวโพดมีอุปสงค์ที่สูงเกินคาด ในขณะที่ข้าวสาลีและถั่วเหลืองมีอุปสงค์ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน