ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล และซื้อเก็งกำไรหลังจากที่สัญญาธัญพืชร่วงลงติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ ซึ่งมีสาเหตุมาจากผลผลิตในสหรัฐและตลาดโลกมีปริมาณมาก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8.25 เซนต์ หรือ 2.61% ปิดที่ 3.2375 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ 1.67% ปิดที่ 3.9475 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 0.75 เซนต์ หรือ 0.08% ปิดที่ 9.4375 ดอลลาร์/บุชเชล
ทั้งนี้ สัญญาข้าวโพดดีดตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับข้าวสาลีและถั่วเหลือง หลังจากที่ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 ปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนถอนการคาดการณ์ที่ว่าราคาข้าวโพดจะร่วงต่ำลง ทำให้ตลาดกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่า ราคาข้าวโพดจะปรับตัวลงหลังจากที่เกษตรกรเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางรายเริ่มหันกลับมาเชื่อว่า เกษตรกรจะหยุดทำการขายเนื่องจากผลผลิตมีราคาต่ำเกินไป ซึ่งจะช่วยให้ราคาข้าวโพดปรับตัวเพิ่มขึ้น
ด้านสัญญาข้าวสาลีได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกันเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังจากที่ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันมีสาเหตุมาจากการเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลินั้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้ปริมาณข้าวสาลีจากเดิมที่มีมากอยู่แล้ว กลับเพิ่มสูงขึ้นไปอีก
รายงานส่งออกรายสัปดาห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ปริมาณการขายถั่วเหลืองนอกสัญญาเดือนพ.ย.ที่เก็บเกี่ยวเมื่อปีที่แล้ว อยู่ที่ 107,500 ตัน และถั่วเหลืองในสัญญาเดือนพ.ย.อยู่ที่ 1,476,400 ตัน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักลงทุน สำนักข่าวซินหัวรายงาน