ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลผลิตถั่วเหลืองจะมีจำนวนลดลงเนื่องจากสภาพอากาศชื้น โดยปริมาณผลผลิตที่ยังไม่แน่นอนในฤดูกาลหน้าได้ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซล
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 1.45% ปิดที่ 3.3325 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.25 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 4.0275 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 15.75 เซนต์ หรือ 1.64% ปิดที่ 9.755 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองนำตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปิดพุ่งขึ้น หลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) รายงานว่า ผู้ส่งออกเอกชนได้จำหน่ายเมล็ดน้ำมันจำนวน 484,000 เมตริกตันไปยังประเทศจีนและประเทศอื่นๆซึ่งไม่ระบุปลายทาง ส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งด้านการส่งออก แม้สัญญาถั่วเหลืองจะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ผลผลิตจะมีจำนวนมหาศาลในปีนี้ก็ตาม
นอกจากนี้ สัญญาถั่วเหลืองยังได้รับปัจจัยหนุนจากแรงช้อนซื้อทางเทคนิค อีกทั้งสภาพอากาศที่ชื้นในบางพื้นที่ของเขตมิดเวสต์ในสัปดาห์หน้ายังคงส่งผลกระทบต่อผลผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อราคาถั่วเหลือง
ทางด้านสัญญาข้าวสาลีปิดบวกจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ยอดการส่งออกธัญพืชของสหรัฐไปยังประเทศแถบแอฟริกาเหนืออย่าง แอลจีเรีย และโมร็อกโค มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากอียิปต์ซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศระงับการซื้อข้าวสาลีจากโรมาเนียที่ไม่ได้คุณภาพ
ทั้งนี้ สัญญาธัญพืชและถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นจากอานิสงส์ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนก.ค.และส.ค.