ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) สัญญาธัญพืชปรับตัวดิ่งลงอย่างหนัก เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ประกอบกับนักลงทุนยังคงวิตกกังวลในรายงานของรัฐบาลสหรัฐที่คาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตในปีนี้จะสูงเกินคาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9.5 เซนต์ หรือ 2.8% ปิดที่ 3.3 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8.25 เซนต์ หรือ 2.02% ปิดที่ 4.01 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 20.25 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 9.44 ดอลลาร์/บุชเชล
ทั้งนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ประกอบกับราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองในตลาดที่ต่ำลง เป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวสาลีถูกเทขาย หลังจากที่ข้าวสาลีปิดบวกในการซื้อขายก่อนหน้านี้
สำหรับราคาถั่วเหลือง ถือว่าปรับตัวลงมากที่สุด เมื่อเทียบกับข้าวโพดและข้าวสาลี โดยถั่วเหลืองปรับตัวลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สอง หลังการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตโดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) สูงกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์ตั้งไว้
รายงานระบุว่า ปริมาณการเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองจะอยู่ที่ 4.2 พันล้านบุชเชล คิดเป็น 50.6 บุชเชล/เอเคอร์ ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
นอกจากนี้ ราคาข้าวโพดยังปรับตัวลงด้วยแรงกดดันจากผลผลิตที่คาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ โดยรายงานของ USDA ระบุว่า เกษตรกรจะเก็บเกี่ยวข้าวโพดจำนวนกว่า 1.509 หมื่นล้านบุชเชลในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ คิดเป็น 174.4 บุชเชล/เอเคอร์ สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิชาการซึ่งอยู่ที่ 1.497 หมื่นล้านบุชเชล/เอเคอร์
ด้านราคาข้าวสาลี ได้ปรับตัวลงเช่นกัน หลังถูกฉุดโดยราคาถั่วเหลืองและข้าวโพด ประกอบกับอุปทานข้าวสาลีทั่วโลกยังมีปริมาณสูง