ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่ม ท่ามกลางแรงซื้อเพื่อชดเชยการทำชอร์ตเซลของนักลงทุน และสัญญาณของการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ล่าช้า
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 2.75 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 3.3175 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 2.02% ปิดที่ 4.04 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 7.25 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 9.525 ดอลลาร์/บุชเชล
ทั้งนี้ ฝนที่ตกลงมาได้ส่งผลให้การเก็บเกี่ยวข้าวโพดและถั่วเหลืองในสหรัฐต้องล่าช้าออกไป ในขณะที่ข้าวสาลีทั้งในออสเตรเลียและแคนาดาต่างได้รับผลกระทบทั้งด้านปริมาณผลผลิตและคุณภาพ
สัญญาถั่วเหลืองปิดปรับตัวขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อเพื่อชดเชยชอร์ตเซลของนักลงทุน โดยราคาที่ตกต่ำนั้นมีสาเหตุมาจากรายงานผลผลิตปริมาณมหาศาลของเกษตรกรในแถบมิดเวสต์ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายต่างคาดการณ์ว่า ฤดูเก็บเกี่ยวถั่วเหลืองในปีนี้ของสหรัฐจะมีปริมาณผลผลิตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ราคาถั่วเหลืองยังปรับตัวขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ของตลาดต่างประเทศสูงขึ้น โดยรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ผู้ส่งออกภาคเอกชนได้ตกลงส่งออกถั่วเหลืองปริมาณกว่า 120,000 ตัน ไปยังประเทศจีน
ส่วนสัญญาถั่วเหลืองปิดพุ่ง เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเก็บเกี่ยวและการเข้าซื้อเพื่อชดเชยชอร์ตเซล ทั้งนี้ พยากรณ์อากาศในสัปดาห์นี้ของออสเตรเลียคาดว่าจะเกิดฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพของข้าวสาลีในออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งของสหรัฐ