ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานยอดสต็อกธัญพืชที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 2.28% ปิดที่ 3.3675 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 4.02 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 3.75 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 9.54 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากรายงานธัญพืชประจำไตรมาสของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ระบุว่า ยอดสต็อกข้าวโพด ณ วันที่ 1 ก.ย. อยู่ที่ 1.738 พันล้านบุชเชล
ไบรอัน ฮูปส์ ประธานบริษัทมิดเวสต์ มาร์เก็ต โซลูชันส์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ว่า เกษตรกรได้นำเอาข้าวโพดไปเลี้ยงปศุสัตว์มากกว่าที่คาดไว้
ด้านชาร์ลี เซอร์นาทิงเจอร์ นักวิเคราะห์ของอีดีแอนด์เอฟ แมน แคปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า รายงานของ USDA ส่งผลให้เกิดแรงช้อนซื้อในตลาด
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ผู้ผลิตอาหารสัตว์ยังคงใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ และไม่ได้หันไปใช้ข้าวสาลีแทน โดยรายงานบ่งชี้ว่า ยอดสต็อกข้าวสาลี ณ สิ้นปีอยู่ที่ 2.527 พันล้านบุชเชลในต้นเดือนก.ย. ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ ทั้งอุปสงค์ด้านการส่งออกข้าวโพดและถั่วเหลืองต่างก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังพืชได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศในอเมริกาใต้ ในขณะที่ราคาพืชที่อยู่ในระดับต่ำอาจจะดึงดูดให้เกษตรกรนำเอาข้าวโพดมาใช้ในการเลี้ยงสัตว์มากขึ้น
แจ็ค สวิลล์ นักวิเคราะห์ของไพรซ์ ฟิวเจอร์ส กรุ๊ป กล่าวว่า ข้าวโพดและถั่วเหลืองได้รับแรงหนุนจากรายงานดังกล่าวเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์
"ส่วนตลาดข้าวสาลีมีแนวโน้มที่ไม่ชัดเจน เนื่องจากผลผลิตอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ในขณะที่ยอดสต็อกสูงเกินคาด" เขากล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน