ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวอย่างไร้ทิศทาง โดยสัญญาข้าวสาลีปิดปรับตัวขึ้น 3% เนื่องจากอุปสงค์การส่งออกที่สดใสช่วยหนุนให้นักลงทุนเข้าซื้อเพื่อชดเชยชอร์ตเซล ขณะที่สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลง หลังได้รับแรงกดดันจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อาจมีปริมาณมากเป็นประวัติการณ์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 0.5 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 3.4775 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.5 เซนต์ หรือ 2.4% ปิดที่ 4.05 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 9.5675 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวขึ้นจากข่าวที่ว่า โมรอคโคจะรับซื้อข้าวสาลีของสหรัฐเป็นจำนวน 260,000 ตัน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ข่าวของโมรอคโคอาจช่วยหนุนสัญญาข้าวสาลีได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนเตรียมเทขายสัญญาข้าวสาลีตามทิศทางของราคา
ทั้งนี้ ราคาสัญญาข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้นได้ช่วยหนุนราคาสัญญาข้าวโพด หลังจากที่ปิดในระดับเกือบทรงตัวในช่วงก่อนหน้านี้
ทางด้านสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลงจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ผลผลิตในปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยบริษัท Informa Economics ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการเกษตรคาดว่า ผลผลิตถั่วเหลืองจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.3 พันล้านบุชเชล โดยมีผลผลิตถั่วเหลืองอยู่ที่ 51.6 บุชเชลต่อเอเคอร์
ในขณะเดียวกัน INTL FCStone ก็ได้ปรับขึ้นคาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองขึ้นสู่ระดับ 52.5 บุชเชลต่อเอเคอร์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ที่คาดว่า ถั่วเหลืองจะมีผลผลิตอยู่ที่ 50.6 บุชเชลต่อเอเคอร์ โดยปริมาณผลผลิตอาจปรับตัวสูงขึ้นอีกในช่วงการเปิดเผยตัวเลขผลผลิตทางการเกษตรที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 ต.ค. นี้