ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง 3 รายการ จากแรงช้อนซื้อของกองทุน ประกอบกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ยอดส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจะปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวใกล้จะสิ้นสุดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 4.75 เซนต์ หรือ 1.36% ปิดที่ 3.54 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.25 เซนต์ หรือ 1.79% ปิดที่ 4.115 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 19.25 เซนต์ หรือ 1.94% ปิดที่ 10.10 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 2 เดือน ในขณะที่สัญญากากถั่วเหลืองพุ่งขึ้นกว่า 3% เนื่องจากนักลงทุนลดการทำสเปรดระหว่างสัญญาถั่วเหลืองและสัญญาน้ำมันถั่วเหลือง
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เกษตรกรจะขายผลผลิตในตลาดน้อยลง เนื่องจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตถั่วเหลืองครั้งใหญ่ที่สุดทั้ง 3 ไตรมาสได้เสร็จสิ้นลงแล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ประจำสัปดาห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงเช้าวันนี้ โดยคาดการณ์ว่า ถั่วเหลืองจะมียอดส่งออกสูงถึง 2.5 ล้านตัน ในขณะที่ข้าวโพดจะมียอดส่งออกราว 1.2 ล้านตัน และข้าวสาลีที่ 550,000 ตัน สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ยังได้รับอานิสงค์จากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ซึ่งช่วยหนุนให้สัญญา CBOT มีราคาที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นในตลาดโลก ทางด้านสัญญาข้าวสาลีได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการจัดซื้อของอียิปต์ ซึ่งเป็นประเทศที่นำเข้าข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดของโลก หลังบริษัท GASC ซึ่งเป็นผู้ซื้อสินค้าเกษตรรายใหญ่ของอียิปต์ เข้าซื้อข้าวสาลีจำนวน 420,000 ตัน ในการประมูลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีระดับราคาสูงกว่าช่วงการประมูลเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม สะท้อนให้เห็นว่า อุปสงค์ข้าวสาลีของสหรัฐเป็นไปในทิศทางบวก
ทั้งนี้ การเข้าซื้อข้าวสาลีล็อตใหญ่ของ GASC ยังทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า นโยบายนำเข้าข้าวสาลีของอียิปต์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังอียิปต์เคยประกาศระงับการซื้อขายข้าวสาลีที่มีการปนเปื้อนของเชื้อราเออร์กอตไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา