ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อวันศุกร์ (1 พ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลดลง เนื่องจากความวิตกกัวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานธัญพืชในตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้น
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.75 เซนต์ หรือ 1.62% ปิดที่ 3.49 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 4.1425 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 18.5 เซนต์ หรือ 1.83% ปิดที่ 9.9325 ดอลลาร์/บุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองร่วงลงหลุดจากระดับทางจิตวิทยาที่ 10 ดอลลาร์/บุชเชล โดยสาเหตุจากราคาผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่ลดต่ำลง ประกอบกับการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจปรับเพิ่มการคาดการณ์กำลังการผลิต
ทั้งนี้ ราคากากถั่วเหลืองและน้ำมันถั่วเหลืองที่ต่ำลงได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาดถั่วเหลือง โดยราคาของน้ำมันถั่วเหลืองที่ใช้สำหรับทำอาหารและเป็นเชื้อเพลิงนั้น ได้ปรับตัวลงเรื่อยมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันพืช เช่นน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลืองล้นตลาด เช่นเดียวกับราคากากถั่วเหลืองที่ใช้เลี้ยงปศุสัตว์ ที่ปรับตัวลงกว่า 2.1%
ส่วนราคาข้าวโพดปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการหลังการเก็บเกี่ยวในสหรัฐมีความคืบหน้า โดยการเก็บเกี่ยวเหลือเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ขณะที่นักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่า การเก็บเกี่ยวข้าวโพดในปีนี้จะมีปริมาณมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้ปริมาณผลผลิตทั่วโลกมีจำนวนสูงสุดเช่นกัน
ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลง โดยสาเหตุจากอุปทานจำนวนมากและการส่งออกที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม สัญญาข้าวโพดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลที่ว่ากองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ได้เข้าซื้อสัญญาข้าวสาลีล๊อตใหญ่ สำนักข่าวซินหัวรายงาน