ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) สัญญาธัญพืชเคลื่อนไหวในทิศทางแตกต่างกัน โดยสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองร่วงลงอย่างหนัก หลังเกษตรกรสหรัฐเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากเป็นประวัติการณ์
ทางด้านสัญญาข้าวสาลีได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก และแรงช้อนซื้อทางเทคนิค ส่งผลให้สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ก่อนที่จะลดช่วงบวกลงเล็กน้อย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.75 เซนต์ หรือ 0.79% ปิดที่ 3.4625 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 4.1775 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 6.75 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 9.865 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาถั่วเหลืองร่วงลงต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 2 หลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) อาจเปิดเผยตัวเลขผลผลิตถั่วเหลืองที่ปรับตัวสูงขึ้นกว่าคาดการณ์
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone คาดการณ์ว่า สหรัฐจะมีผลผลิตถั่วเหลืองที่ระดับ 4.386 พันล้านบุชเชล โดยมีผลผลิตเฉลี่ยที่ 52.8 บุชเชลต่อเอเคอร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของ USDA ที่ระบุว่า ผลผลิตถั่วเหลืองมีแนวโน้มอยู่ที่ 4.269 พันล้านบุชเชล โดยมีผลผลิตเฉลี่ยต่อเอเคอร์ที่ 51.4 บุชเชล ในเดือนตุลาคม
นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในประเทศบราซิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดน้ำมันรายใหญ่ของโลก ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบที่สร้างแรงกดดันให้กับตลาด
ทางด้านสัญญาข้าวโพดปรับตัวลง แม้รัฐบาลสหรัฐจะรายงานว่า สต็อกน้ำมันเอทานอลในประเทศซึ่งต้องใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบในการผลิตนั้น ลดลงอย่างมากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา