ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวลง เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 3.3725 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วง 9 เซนต์ หรือ2.23% ปิดที่ 3.94 ดอลลาร์/บุชเชล สัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 1.75 เซนต์ หรือ 0.18% ปิดที่ 9.8425 ดอลลาร์/บุชเชล
ราคาข้าวสาลีร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน และต่ำกว่าระดับทางจิตวิทยาที่ 4 ดอลลาร์/บุชเชล เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ จึงส่งผลกระทบต่อการส่งออกผลผลิตสหรัฐ เนื่องจากผลผลิตจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้นำเข้าในต่างประเทศที่ถือเงินสกุลอื่น
สำหรับปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่านั้น มาจากการคาดการณ์ที่ว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ สัญญาข้าวสาลียังปรับตัวลง ตามทิศทางตลาดข้าวโพด เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ข้าวสาลีซึ่งราคากำลังอยู่ในช่วงขาลงนั้น อาจทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์หันมาใช้ข้าวสาลีแทนข้าวโพด
ส่วนสัญญาข้าวโพดร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยยังคงได้รับแรงกดดันจากการเก็บเกี่ยวในสหรัฐที่กำลังจะเสร็จสิ้น คาดว่าเกษตรกรจะสามารถเก็บเกี่ยวข้าวโพดในครั้งนี้ได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้แก่อุปทานข้าวโพดโลกซึ่งมีปริมาณมากแล้ว
สัญญาถั่วเหลืองร่วงแตะระดับสุดในรอบ 1 เดือนเช่นกัน โดยได้รับแรงกดดันจากสัญญาน้ำมันถั่วเหลืองที่ปรับตัวลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน